วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

แนะนำบล๊อกดีๆผลงานของนักศึกษา

             วันนี้ก็อยากจะแนะนำบล๊อกที่มีเนื้อหาดีๆผลงานดีๆของนักศึกษาบ้างนะค่ะ โดยบล๊อกที่จะมาแนะนำนี้เป็นบล็อกที่รวบรวมผลงานหนังสือนิทานอีบุ้ค (e-book) หรือหนังสือนิทานอิเล็กทรอนิกส์ ผลงานทั้งหมดได้ทำขึ้นโดยนักศึกษาที่เรียนในรายวิชา นวัตกรรมและเทคโนโลยีสานสนเทศเพื่อการศึกษา  สอนโดย อาจารย์อัจฉริยะ  วะทา  โดยบล็อกนั้นมีชื่อว่า atinno.blogspot.com
             ภายในบล๊อกก็จะประกอบไปด้วยหนังสือนิทานอีบุ้คที่เป็นฝีมือของนักศึกษาในหลายๆ สาขา  หลายเรื่องน่าอ่านและสามารถโหลดเก็บไว้หรือนำไปสอนได้ด้วย  

            นอกจากนี้ก็ยังรวมผลงานการจัดทำบล็อกของนักศึกษาแต่ละสาขาวิชา  ที่มีเนื้อหาสาระเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจรวมอยู่ในนั้นด้วย

            เป็นเว็บอีกหนึ่งเว็บที่อยากจะแนะนำให้ทุกๆคนที่ต้องการหาความรู้หาสาระเล็กๆน้อยที่น่าสนใจ และนิทานอีบุ้คที่อยู่ในบล๊อกนี้ก็เหมาะสำหรับผู้ที่อยากจะทำหนังสือแบบทำมือและทำเป็นอีบุ้ค (e-book) ด้วย  อย่าลืมบล็อก atinno.blogspot.com  นะค่ะ ^^

วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

เชื่อหรือไม่ ทานของหวานในมื้อเช้าช่วยลดความอ้วนได้



ไม่ต้องลดความอ้วนกับแบบอดๆ อยากๆ กันอีกต่อไปแล้ว เนื่องจากเมื่อเร็วๆ นี้นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการวิจัยพบว่า การตบท้ายมื้อเช้าแคลอรี่ต่ำด้วยของหวานนั้นจะไม่ทำให้อ้วนขึ้น แถมยังช่วยลดน้ำหนักได้อีกด้วย
นักวิทยาศาสตร์ที่วิจัยโครงการนี้ได้สุ่มเลือกกลุ่มตัวอย่างที่เป็นโรคอ้วนและมีอายุระหว่าง 20 – 65 ปี มา 144 คน และให้พวกเขาเข้าโปรแกรมควบคุมอาหาร โดยผู้หญิงจะบริโภค 1400 แคลอรีต่อวัน ส่วนผู้ชายบริโภค 1600 แคลอรีต่อวัน
ผู้วิจัยแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็น 2 กลุ่ม ควบคุมปัจจัยทุกอย่างให้เหมือนกันหมด เพียงแต่กลุ่มหนึ่งจะมีขนมหวานอย่าง ชอกโกแลต คุกกี้ เค้ก หรือไอศกรีมเป็นส่วนหนึ่งในมื้อเช้าด้วย ซึ่งผลการวิจัยนั้นพบว่า ในช่วง 16 สัปดาห์แรกกลุ่มตัวอย่างทั้ง 2 กลุ่มสามารถลดน้ำหนักได้พอๆ กัน แต่พอเข้า 16 สัปดาห์หลัง กลับพบว่า กลุ่มที่ได้รับของหวานเป็นอาหารเช้าด้วยมีน้ำหนักลดมากกว่ากลุ่มที่ไม่ทานโดยเฉลี่ยถึง 5 กิโลกรัม
และพอเข้าทำการทดสอบดูก็พบว่า กลุ่มที่ทานของหวานนั้นจะมีฮอร์โมนเกรลิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกหิวต่ำกว่ากลุ่มที่ไม่ทาน อีกทั้งยังมีความรู้สึกอิ่มมากกว่าอีกด้วย ซึ่ง ดร.เดเนียลลา จาคโบวิค จากมหาวิทยาลัย Tel Aviv หัวหน้าโครงการวิจัยนี้ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับประเด็นนี้ไว้ว่า การได้ทานของที่ชอบจะทำให้ความอยากอาหารลดลง การรับประทานอาหานแคลอรีสูงแต่อยู่ในปริมาณที่ยังควบคุมได้ จึงน่าจะมีผลให้เราสามารถควบคุมน้ำหนักได้ดีขึ้น
ดังนั้นใครอยากหุ่นสวย แต่ก็อยากของหวาน ช่วงเวลาก่อน 10 โมงเช้าถือเป็นเวลาที่ดีที่จะกินให้หายอยาก…แต่อย่าเยอะเกินไปก็แล้วกัน
ส่วนคนที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ติดตามอ่านงานวิจัยได้ในวารสาร Journal of Steriod ฉบับเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ภาพประกอบ : Shutterstock
แหล่งข่าว : NYtimes.com 
นำมาจาก: http://sugarviva.com 


เทคนิคในการอ่านหนังสือของแต่ละกรุ๊ปเลือด

ช่วงนี้เป็นเทศกาลในการสอบ คนเขียนเลยเอาเทคนิคของแต่ละกรุ๊ปเลือดว่าแต่ละกรุ๊ปนั้นมีวิธีการอ่านหนังสือกันยังไง อ่านเอาขำๆนะจ๊ะแต่บางคนอาจเป็นแบบนี้จริงๆก็ได้ อิอิ




ขอให้ทุกคนโชคดีในการสอบนะค่ะ ^^

วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2555

คำว่า"ฉันรักเธอ"ของแต่ละประเทศ

ตั้งแต่เพลงพี่บี้ดังเนี่ยรู้สึกว่าจะมีคนหาคำบอกรักของแต่ละประเทศมาบอกรักกันเพื่อความสนุกสนานเยอะแยะมากมาย คนเขียนก็เป็นนะสมัยเรียนมัธยมเรียนสายศิลป์เยอรมันคำอื่นไม่ค่อยอยากรู้อ่ะขอรู้คำว่าฉันรักเธอกับฉันสวยแค่นั้นได้มั้ย5555 เอาละวันนี้เลยจะลงคำบอกรักของแต่ละประเทศ มีอะไรบ้างไปดูกันนนนนน




พม่า เรียกว่า จิต พา เด (chit pa de) 

เขมร เรียกว่า บอง สรัน โอน (Bon sro Iahn oon)

เวียดนาม เรียกว่า ตอย ยิ่ว เอ๋ม (Toi yue em) มาเลเซีย เรียกว่า ซายา จินตามู (Saya cintamu) 

อินโดนีเซีย เรียกว่า ซายา จินตา ปาดามู (Saya cinta padamu)

ฟิลิปปินส์ เรียกว่า มาฮัล กะ ตา (Mahal ka ta) 

ญี่ปุ่น เรียกว่า คิมิ โอ ไอ ชิเตรุ (Kimi o ai shiteru)

เกาหลี เรียกว่า โน รุย สะรัง เฮ (No-rui sarang hae)

เยอรมัน เรียกว่า อิคช์ ลิเบ ดิกช์ (Ich Liebe Dich) 

ฝรั่งเศส เรียกว่า เฌอแตม (Je t'aime) 

ฮอลแลนด์ (ดัชต์) เรียกว่า อิค เฮา ฟาวน์ เยา (Ik hou van jou)

สวีเดน เรียกว่า ย็อก แอลสการ์ เด (Jag a Lskar dig) 

อิตาลี เรียกว่า ติ อโม (Ti amo) 

สเปน เรียกว่า เตอ เควียโร (Te quiero) 

รัสเซีย เรียกว่า ยาวาส ลุยบลิอู (Ya vas Liubliu)

โปรตุเกส เรียกว่า อโม-เท (Amo-te) 

จีนกลาง เรียกว่า หว่อ อ้าย หนี่ (Wo ai ni)

จีนแคะ เรียกว่า ไหง อ้อย หงี (Ngai oi ngi) 

ฮกเกี้ยน เรียกว่า อั๊ว ไอ้ ลู่ (Auo ai Lu) 

ตุรกี เรียกว่า เซนี เซวีโยรัม (Seni Seviyorum)



ไม่ว่าคำว่ารักคำไหนๆก็ไพเราะทุกภาษาถ้ามาจากใจที่รักจริง ฮิ้วววววว ไอ เลิฟ ยู วอ อ้าย หนี่ อิค ลิเบอดิก เฌอแตมม........




วันศุกร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2555

นิทาน นิทาน นิทาน

นิทานเรื่อง ดอกไม้ของฉัน
จำนวน 12 หน้า
เรื่อง และภาพ โดย สโรชา  เชื้อสาวถี
คบ. ภาษาไทย หมู1 รหัส 533410010137

เนื้อเรื่อง
เด็กสาวคนหนึ่งที่ออกเดินทางไปหาดอกไม้เป็นของตัวเอง หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอดอกที่คู่ควรกับเธอเลยสักดอก หารู้ไม่ว่าสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวเธอนั่นแหล่ะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับตัวเธอแล้ว





ดาวน์โหลดตัวเต็ม คลิกเบาๆนะจ๊ะๆ































วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

K-POP นั้น น่าดู น่าฟัง....ขนาดนั้นอ่ะ!!? II

อัพบล๊อคตามใจฉันอีกแล้ว 5555 มาต่อพาสสองค่ะจากพาสแรกเวิ่นเวอกับทงบังชินกิจนทำให้ไม่กล้าส่งงานการทำบล๊อคกับอาจารย์ เดี๋ยวโดนมองว่าอินี่บ้าดาราเกาหลี 555 ไม่แคร์แล้วค่ะ ณ จุดๆนี้ = =" เอาละๆๆๆๆ วันศิลปินที่คนเขียนจะลงในวันนี้ก็คือออ..............


เดอะ วอนเดอร์เกริลลลล (Wonder Girlsปี2012)
สมาชิกเรียงจากซ้ายไปขวา เยอึน เฮลิม ซอนเย ยูบิน โซฮี 

วอนเดอร์เกริลเดบิวเมื่อปี2007ภายใต้สังกัด JYP Entertainment (ต้นสังกัดของเรน) สีประจำวงคือสีม่วงมุก มีชื่อแฟนคลับชื่อว่า วอนเดอร์ฟูล และเพลงที่เปิดตัวคือ.


เพลง Ironyyyy เพลงนี้มีพี่คุณด้วยนะเออ (กล้องจับประมาณสองวิ) 

ภาพปกซิงเกิ้ลแรก


และเมื่อถึงช่วงที่จะปล่อยอัลบั้มชุดแรก หนึ่งในสมาชิกก็ต้องได้ออกจากวงไปซึ่งก็คือ..
ฮยอนอา




และปัจจุบันเธอคือ...
นังหนูฮยอนอา เดบิวใหม่ในวงที่ชื่อว่าโฟมินิท (หน้าตาและลีลาเธอเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลัง.....เลยละค่ะ = =') และนางยัง.....


เป็นอีหนูที่เต้นในเพลงกังนัมสไตล์ของเฮียไซด้วย (เซ็กซี่มากกก)


และวอนเดอร์เกริลก็ได้สมาชิกเข้ามาเสริมทัพใหม่ก็คือ.....
ยูบินยอง แร๊พเปอร์ผิมเข้มเสียงใหญ่ เป็นอะไรที่ลงตัวกับเพลงไตเติ้ลในอัลบั้มเต็มชุดแรกของวอนเดอร์เกริลมาก และเพลงนั้นคือ...


เพลงTell me เทลมี เทลมี แทด แท แดด แทด เทลมี เพลงนี้ปลุกกระแสเกริลกรุ๊ปของเกาหลีอย่างมากก ท่ามกลางบอยแบนด์(หนึ่งในนั้นคือทงบังชินกิที่รักของคนเขียน) ด้วยท่าเต้นที่แปลก และเพลงที่เป็นสไตล์ย้อนยุค ทำให้วอนเดอร์เกริลเป็นเกริลกรุ๊ปที่ดังที่สุดในตอนนั้นเลยค่ะ งานปลายปีก็กวาดรางวัลนักร้องกลุ่มหญิงหน้าใหม่ทุกงาน เรียบร้อยโรงเรียนเจวายพี อิอิ

ภาพปกอัลบั้มเต็มชุดที่หนึ่ง

และต้นปี2008 วอนเดอร์เกริลก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลตัวที่สามซึ่งก็คือเพลง....


เพลง So Hot เอม โซ ฮอต!! นา นอมูเย ปอโย!! เพลงนี้วอนเดอร์เกริลปรับลุคครั้งใหญ่เลยค่ะ ทั้งตัดผมสั้น คอสตูมลายเสือดาว เพลงก็เป็นแนวๆฉันเริศ ฉันสวย จัดเต็มค่ะ เพลงนี้ก็ฮิตติดลมบนอีกเช่นเคย

ภาพปกซิงเกิ้ลโซฮอต

และกลางปี2008 วอนเดอร์เกริลก็กลับมาอีกครั้ง และในการกลับมาครั้งนี้ก็สร้างความยิ่งใหญ่ไปทั้วทั้งเอเชีย ด้วยเพลง......



เพลง Nobody!! ไอ วอน โน บอ ดี้ นอ บอ ดี้ บัท ยู!!! แปะๆๆ!! เพลงนี้ก็เป็นสไตล์ในยุค80อีกเช่นเคย ด้วยเนื้อเพลงที่ติดหูและท่าเต้นชูนิ้วชี้ไปข้างหน้าทั้งสองมือ(มียกขาขึ้นหนึ่งข้าง) ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงประจำชาติเกาหลีที่ทุกคนทั่วโลกต่างรู้จักและร้องเพลงนี้ได้ ทำให้วอนเดอร์เกริลมีคอนเสริตครั้งแรกเป็นของตัวเองในปีนั้น(มาจัดที่ไทยที่แรกด้วยนะเออ)เป็นเกริลกรุ๊ปวงแรกในรอบสิบปีที่มีคอนเสริตใหญ่ ณ เวลานั้นพวกนางทั้งห้าฮอตจริงๆค่ะ ดังระเบิดระเบ้อ และเป็นเกริลกรุ๊ปวงเดียวที่อาจหาญชาญชัยปล่อยเพลงออกมาสู้กับกลุ่มบอยแบนด์ที่กำลังดังเป็นพลุแตกในขณะนั้น (นั้นก็คือทงบังชินกิ บิ๊กแบง และเรน)และไม่แป๊ก แต่ดังโคตะระ เหอๆ คนเขียนไม่ได้พูดเกินจริงนะ เพลงนี้แม่คนเขียนก็รู้จักอ่ะ เริศจริงอะไรจริง(จุดนี้คนเขียนปลื้มมากก เป็นเกริลกรุ๊ปวงเดียวที่คนเขียนชอบ ท่ามกลางบอยแบนด์เป็นสิบๆวงในใจ) ปลายปีก็กวาดรางวัลเพลงไปเยอะแยะมากมาย สูสีกับทงบังชินกิและบิ๊กแบงเลยละค่ะ

ภาพเปิดตัวซิงเกิ้ล Nobody

ภาพเมื่อครั้งวอนเดอร์เกริลมาแสดงคอนเสริตที่ไทย(มาอีกทีเถ้อออออ)


ต่อมาวอนเดอร์เกริลก็ได้มีโอกาสชิมลางวงการเพลงที่อเมริกาโดยเป็นวงเปิดให้กับโจนาสบราเธอร์


และยังได้มีโอกาสไปชิมลางต่อการเปิดตลาดใหม่ในอเมริกา ในช่วงปี2009วอนเดอร์เกริลจึงใช้เวลาที่อเมริกาเป็นส่วนใหญ่ งานเพลงในเกาหลีจึงเงียบเหงาลงไปมากก(หายไปนานจริงๆจนแฟนคลับบางคนทิ้งวอนเดอร์เกริลไปเป็นแฟนคลับวงอื่น ช้ำใจอ่ะ = =*)




แต่พวกนางไปอยู่ที่นู่นก็ลั้นลากันดีนะ ได้ประสบการณ์ใหม่กลับมา และยังได้สำเนียงภาษาอังกฤษเริศๆกลับมาอีก (ปล่อยให้แฟนคลับนั่งเหี่ยวแห้งรอผลงานต่อไป...)


และๆๆๆเมื่อต้นปี2010 พรถศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก นังหนูซอนมี ยัยติ๋มสี่มิติ ก็ได้ออกมาประกาศเรื่องการพักงานไปเรียนต่อ ซึ่งตอนนั้นมีข่าวลือต่างๆนาๆที่ตัดพ้อยัยติ๋มว่าทำไมถึงทึ้งแฟนคลับไปทำไมสมาชิกคนอื่นไม่ห้ามไว้ แต่ท้ายสุดแล้วแฟนคลับก็ยอมเข้าใจถึงความต้องการของเธอ และยังเข้าใจสมาชิกคนอื่นๆที่ยอมรับการตัดสินใจของยัยสี่มิติด้วย(คนเขียนเสียดายเธอมากค่ะ เธอเป็นคนที่น่ารัก น่ารักทั้งหน้าตา และนิสัย แถมยังร้องเพลงเก่งสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคน เฮ่อออ ใจหายเลยอ่ะ TT)

และอาจจะเป็นเพราะว่าเธอไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองทำให้เธอรู้สึกเหงาและท้อ ถึงขนาดที่วันที่วอนเดอร์เกริลกลับมาเกาหลีแล้วมาเเถลงข่าว เธอพูดพร้อมน้ำตาว่าตอนที่อยู่อเมริกาเธอร้องไห้ทุกคืน และต่อมาก็ได้ข่าวการหยุดพักการเป็นสมาชิกของวอนเดอร์เกริล(ซอนมีอา อย่าร้องไห้ T^T) แต่ยังไงวอนเดอร์ฟูลทุกคนก็ยังคิดว่าเธอเป็นสมาชิกของวอนเดอร์เกริลอยู่...ตลอดไป

ยัยซอนมีสี่มิติ

ยัยกวางดาวผู้สดใสร่าเริง

เธอจะอยู่ในใจของวอนเดอร์ฟูลเสมอ....

และตลอดไป.....

ภาพยัยติ๋มตอนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ หน้าตาแจ่มใสดูมีน้ำมีนวลเชียว เห็นเธอมีความสุขเราก็มีความสุขนะ รีบๆกลับมาด้วยล่ะ 

และปีเดียวกันนั้นวอนเดอร์เกริลก็ได้สมาชิกใหม่เข้ามาเสริมทัพแทนซอนมีคือ.....

นังหนูหน้าตาจิ้มลิ้มนางนี้ชื่อว่า วู เฮลิม เธอเป็นคนเกาหลีที่โตอยู่ที่ฮ่องกง ลิมมี่จึงพูดได้ถึงสี่ภาษา ภาษาจีนกลาง เกาหลี อังกฤษ และภาษาไรอีกนี่ละคนเขียนลืม= =" และวอนเดอร์เกริลก็ได้มีซิงเกิ้ลเปิดตัวสมาชิกใหม่ ซิงเกิ้ลนั้นคือเพลง....


เพลง 2 Different tears  เกบ มี ทู ดิพเฟนเทียร์ ทู๊ ทู๊!!! ลุคนี้คนเขียนชอบมากกก มาแปลกแหวกแนว สักตรงแขนตรงขา (ความจริงมันคือแทททู) เอ็มวีเป็นแนวต่างดาวและท่าเต้นก็ยังคงคอนเซ็ปบ่งบอกถึงความเป็นวอนเดอร์เกริลได้อย่างดีเลยละค่ะ

ภาพซิงเกิ้ล 2 Different tears

และเมื่อปลายปี2011 วอนเดอร์เกริลก็ได้ฤกษ์กลับมาทวงบัลลังค์เกริลกรุ๊ปคืน ด้วยการปล่อยอัลบั้มเต็มชุดที่สอง มีเพลงไตเติ้ลชื่อว่า...


เพลง Be my baby พลีสส บี มาย เบ้ เบ พลีส มี มาย เบ้ เบ กลับมาด้วยลุคที่ดูอินเตอร์มากขึ้น เอ็มวีแอบขัดใจคนเขียนเล็กน้อยแต่เพลงเพราะ เรียกว่าเพราะทั้งอัลบั้มก็เลยให้ผ่านไป 555 ถือว่าการกลับมาครั้งนี้กระแสตอบรับดีพอสมควรค่ะ ทั้งจากนักวิจารณ์และจากแฟนคลับทั้งของตัวเองและของวงอื่นๆ(วอนเดอร์ฟูลคนนี้เป็นปลื้มมม ><) 

ภาพปกอัลบั้มเต็มชุดที่สอง อัลบั้มนี้ตัวเองลงทุนสั่งซื้อจากเกาหลีเป็นอัลบั้มแรก เพราะรู้สึกว่ามันคุ้มมากๆค่ะ เพลงเพราะทุกเพลงและเป็นการกลับมาครั้งนานๆทีของวอนเดอร์เกริลอีกด้วย ไม่ซื้อเก็บไว้นี่ถือว่าพลาดอย่างแรง 555

ต่อมา ตามกันมาติดๆ ปี2012วอนเดอร์เกริลได้มีละครเป็นของตัวเองซึ่งฉายที่ช่องเคเบิ้ลของอเมริกา และได้ปล่อยซิงเกิ้ลภาษาอังกฤษซิงเกิ้ลแรกชื่อว่า.....


เพลง The dj is mine ฮี อิส มาย!!! คอสตูม...เกือบเป๊ะ ทรงผม เป๊ะ สำเนียง เป๊ะ เพลงเพราะเว่อร์ ท่าเต้นเริศสุดๆ (โดยเฉพาะยูบินยงเซ็กซี่มากกก><)


ภาพปกอัลบั้มซิงเกิ้ลภาษาอังกฤษซิงเกิ้ลแรก

และปล่อยซิงเกิ้ลภาษาเกาหลีใหม่อีกหนึ่งเพลงคือเพลง.....


เพลง Like this ไลค์ ดิส โย่ว ไลค์ ดิส!! เพลงใหม่เพลงนี้เปลี่ยนแนวจากเพลงก่อนหน้านี้มากเลยค่ะ ด้วยสไตล์เพลงฮิพฮอพ เสื้อผ้าก็ออกแนวสีสัน(ต่างจากบีมายเบบี้ที่เน้นขาวดำ) เอ็มวีก็เป็นแนวแฟลชม๊อป ท่าเต้นขาปูอีก แดนซ์กันมันส์เลยค่ะ เริศมากซิงเกิ้ลนี้ แถมเพลงอีกสี่เพลงในอัลบั้มก็เพราะทุกเพลง อย่างนี้จะไม่ให้เรียกว่าคุณภาพยังไงไหวค่ะ ถามจริง?(อวยโคตรๆ)

ภาพปกซิงเกิ้ล คนเขียนก็ไปสอยมาเรียบร้อย เมดอินโคเรียด้วยค่ะ อิอิ

จากความสำเร็จและความพยายามต่อสู้กับความยากลำบาทเมื่อครั้งที่อยู่อเมริกา วอนเดอร์เกริลก็พร้อมเปิดตัวซิงเกิ้ลที่จะบุกตลาดอเมริกาแถมยังได้นักร้องคุณภาพของอเมริกามาฟิทเจอร์ริ่งด้วยนั่นคือเพลง....


 เพลง Like money เลิฟ มี ไลค์ มันนี่ เลิฟ มี ไลค์ คาร์ เลิฟ มี เบ เลิฟ มี เบ เว เอ เวอร์ ยูว อาร์ เพลงนี้เริศมากได้นักร้องดังระดับโลกอย่างAkonมาฟีทด้วย สำเนียงเป๊ะ ดูอินเตอร์มากขึ้น โดยเฉพาะชุดแนบเนื้อนี่สุดยอดเค่อะ เหอๆ ทำให้เห้นถึงความพัฒนาของสาวๆทั้งห้านี้จริงๆทั้งสำเนียงในการร้องการพูดภาษาอังกฤษ ประสบการณ์ต่างๆที่ทำให้ทั้งห้าสาวได้ดตขึ้น ภูมิใจกับเกริลกรุ๊ปตัวแม่กลุ่มนี้จริงๆ


ตอนนี้วอนเดอร์เกริลกำลังทุ่มเทให้การโปรโมทตัวเองในอเมริกาและได้เดินสายโปรโมทเพลงตามรายการวิทยุต่างๆ วอนเดอร์ฟูลคนนี้ก้ขอเป็นกำลังใจให้วอนเดอร์เกริลประสบผลสำเร็จอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ ส่วนแฟนคลับทุกคนยินดีกับทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่วอนเดอร์เกริลได้ตัดสินใจทำและไม่เคยทำให้วอนเดอร์ฟูลผิดหวังเสมอ ซารางแฮวอนเดอร์เกริลซือ ^^



ปิดท้ายๆ เพลงใหม่ของวอนเดอร์เกริลที่ร้องในมินิคอนเสริตไอฮาร์ทเรดิโอ คนเขียนชอบเพลงนี้มากกก ฟังเป้นร้อยๆรอบในแต่ละวัน 555 เป็นเพลงภาษาอังกฤษที่วอนเดอร์เกริลร้องแล้วทำให้รู้สึกว่า นี่ละการโกอินเตอร์ของแท้!!!





Wonder Girls You are the one..............

























วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2555

Who i am inside....





                                     

เมื่อวันก่อนมีโอกาสได้ดูการ์ตูนมู่หลานสามภาครวด เหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง 555
มู่หลานเป็นหนึ่งในสี่เรื่องของวอลดิสนี่ย์ในแนวเจ้าหญิงที่คนเขียนชอบ ชอบที่เธอดูเข้มแข็ง ร่าเริง กล้าหาญ แบบไม่ค่อยชอบเจ้าหญิงที่แบบหวานๆเท่าไหร่ มันดูไม่มีอะไรให้ดูอ่ะ = =" ยิ่งพูดยิ่งงง 555 เอาเป็นว่าชอบการ์ตูนเรื่องนี้มากค่ะ เพลงประกอบก็เพราะ วันนี้เลยว่าจะลงเพลง อิอิ เอาละไปฟังกันเต๊อะ


อันนี้เป็นเพลงReflectionเวอร์ชั่นในการ์ตูนภาคแรก ส่วนเวอร์ชั่นเต็ม คริสตน่า อากีเลล่าเป็นคนร้องค่ะ




มีเวอร์ชั่นไทยด้วยนาา ของไทยก็เพราะค่ะ ชอบดิสนี่ยตรงที่เขาจะดูโปรไฟล์คนที่จะมาพากย์การ์ตูนของเขาที่เป็นภาษาต่างๆด้วย เพื่อความเหมาะสมและอย่างที่รู้ๆกันว่าการ์ตูนดิสนี่ย์ชอบให้นางเอกร้องเพลง เสียงร้องเพลงเวอร์ชั่นไทยก็เลยเพราะไม่แพ้เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษเลยค่ะ









จะมีไหมวันใดเห็นเงา.....เป็นเช่นเราที่แท้
Who i am.....inside