เดอะ วอนเดอร์เกริลลลล (Wonder Girlsปี2012)
สมาชิกเรียงจากซ้ายไปขวา เยอึน เฮลิม ซอนเย ยูบิน โซฮี
วอนเดอร์เกริลเดบิวเมื่อปี2007ภายใต้สังกัด JYP Entertainment (ต้นสังกัดของเรน) สีประจำวงคือสีม่วงมุก มีชื่อแฟนคลับชื่อว่า วอนเดอร์ฟูล และเพลงที่เปิดตัวคือ.
เพลง Ironyyyy เพลงนี้มีพี่คุณด้วยนะเออ (กล้องจับประมาณสองวิ)
ภาพปกซิงเกิ้ลแรก
และเมื่อถึงช่วงที่จะปล่อยอัลบั้มชุดแรก หนึ่งในสมาชิกก็ต้องได้ออกจากวงไปซึ่งก็คือ..
ฮยอนอา
และปัจจุบันเธอคือ...
นังหนูฮยอนอา เดบิวใหม่ในวงที่ชื่อว่าโฟมินิท (หน้าตาและลีลาเธอเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลัง.....เลยละค่ะ = =') และนางยัง.....
เป็นอีหนูที่เต้นในเพลงกังนัมสไตล์ของเฮียไซด้วย (เซ็กซี่มากกก)
และวอนเดอร์เกริลก็ได้สมาชิกเข้ามาเสริมทัพใหม่ก็คือ.....
ยูบินยอง แร๊พเปอร์ผิมเข้มเสียงใหญ่ เป็นอะไรที่ลงตัวกับเพลงไตเติ้ลในอัลบั้มเต็มชุดแรกของวอนเดอร์เกริลมาก และเพลงนั้นคือ...
เพลงTell me เทลมี เทลมี แทด แท แดด แทด เทลมี เพลงนี้ปลุกกระแสเกริลกรุ๊ปของเกาหลีอย่างมากก ท่ามกลางบอยแบนด์(หนึ่งในนั้นคือทงบังชินกิที่รักของคนเขียน) ด้วยท่าเต้นที่แปลก และเพลงที่เป็นสไตล์ย้อนยุค ทำให้วอนเดอร์เกริลเป็นเกริลกรุ๊ปที่ดังที่สุดในตอนนั้นเลยค่ะ งานปลายปีก็กวาดรางวัลนักร้องกลุ่มหญิงหน้าใหม่ทุกงาน เรียบร้อยโรงเรียนเจวายพี อิอิ
ภาพปกอัลบั้มเต็มชุดที่หนึ่ง
และต้นปี2008 วอนเดอร์เกริลก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลตัวที่สามซึ่งก็คือเพลง....
เพลง So Hot เอม โซ ฮอต!! นา นอมูเย ปอโย!! เพลงนี้วอนเดอร์เกริลปรับลุคครั้งใหญ่เลยค่ะ ทั้งตัดผมสั้น คอสตูมลายเสือดาว เพลงก็เป็นแนวๆฉันเริศ ฉันสวย จัดเต็มค่ะ เพลงนี้ก็ฮิตติดลมบนอีกเช่นเคย
ภาพปกซิงเกิ้ลโซฮอต
และกลางปี2008 วอนเดอร์เกริลก็กลับมาอีกครั้ง และในการกลับมาครั้งนี้ก็สร้างความยิ่งใหญ่ไปทั้วทั้งเอเชีย ด้วยเพลง......
เพลง Nobody!! ไอ วอน โน บอ ดี้ นอ บอ ดี้ บัท ยู!!! แปะๆๆ!! เพลงนี้ก็เป็นสไตล์ในยุค80อีกเช่นเคย ด้วยเนื้อเพลงที่ติดหูและท่าเต้นชูนิ้วชี้ไปข้างหน้าทั้งสองมือ(มียกขาขึ้นหนึ่งข้าง) ทำให้เพลงนี้เป็นเพลงประจำชาติเกาหลีที่ทุกคนทั่วโลกต่างรู้จักและร้องเพลงนี้ได้ ทำให้วอนเดอร์เกริลมีคอนเสริตครั้งแรกเป็นของตัวเองในปีนั้น(มาจัดที่ไทยที่แรกด้วยนะเออ)เป็นเกริลกรุ๊ปวงแรกในรอบสิบปีที่มีคอนเสริตใหญ่ ณ เวลานั้นพวกนางทั้งห้าฮอตจริงๆค่ะ ดังระเบิดระเบ้อ และเป็นเกริลกรุ๊ปวงเดียวที่อาจหาญชาญชัยปล่อยเพลงออกมาสู้กับกลุ่มบอยแบนด์ที่กำลังดังเป็นพลุแตกในขณะนั้น (นั้นก็คือทงบังชินกิ บิ๊กแบง และเรน)และไม่แป๊ก แต่ดังโคตะระ เหอๆ คนเขียนไม่ได้พูดเกินจริงนะ เพลงนี้แม่คนเขียนก็รู้จักอ่ะ เริศจริงอะไรจริง(จุดนี้คนเขียนปลื้มมากก เป็นเกริลกรุ๊ปวงเดียวที่คนเขียนชอบ ท่ามกลางบอยแบนด์เป็นสิบๆวงในใจ) ปลายปีก็กวาดรางวัลเพลงไปเยอะแยะมากมาย สูสีกับทงบังชินกิและบิ๊กแบงเลยละค่ะ
ภาพเปิดตัวซิงเกิ้ล Nobody
ภาพเมื่อครั้งวอนเดอร์เกริลมาแสดงคอนเสริตที่ไทย(มาอีกทีเถ้อออออ)
ต่อมาวอนเดอร์เกริลก็ได้มีโอกาสชิมลางวงการเพลงที่อเมริกาโดยเป็นวงเปิดให้กับโจนาสบราเธอร์
และยังได้มีโอกาสไปชิมลางต่อการเปิดตลาดใหม่ในอเมริกา ในช่วงปี2009วอนเดอร์เกริลจึงใช้เวลาที่อเมริกาเป็นส่วนใหญ่ งานเพลงในเกาหลีจึงเงียบเหงาลงไปมากก(หายไปนานจริงๆจนแฟนคลับบางคนทิ้งวอนเดอร์เกริลไปเป็นแฟนคลับวงอื่น ช้ำใจอ่ะ = =*)
แต่พวกนางไปอยู่ที่นู่นก็ลั้นลากันดีนะ ได้ประสบการณ์ใหม่กลับมา และยังได้สำเนียงภาษาอังกฤษเริศๆกลับมาอีก (ปล่อยให้แฟนคลับนั่งเหี่ยวแห้งรอผลงานต่อไป...)
และๆๆๆเมื่อต้นปี2010 พรถศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก นังหนูซอนมี ยัยติ๋มสี่มิติ ก็ได้ออกมาประกาศเรื่องการพักงานไปเรียนต่อ ซึ่งตอนนั้นมีข่าวลือต่างๆนาๆที่ตัดพ้อยัยติ๋มว่าทำไมถึงทึ้งแฟนคลับไปทำไมสมาชิกคนอื่นไม่ห้ามไว้ แต่ท้ายสุดแล้วแฟนคลับก็ยอมเข้าใจถึงความต้องการของเธอ และยังเข้าใจสมาชิกคนอื่นๆที่ยอมรับการตัดสินใจของยัยสี่มิติด้วย(คนเขียนเสียดายเธอมากค่ะ เธอเป็นคนที่น่ารัก น่ารักทั้งหน้าตา และนิสัย แถมยังร้องเพลงเก่งสร้างเสียงหัวเราะให้กับทุกคน เฮ่อออ ใจหายเลยอ่ะ TT)
และอาจจะเป็นเพราะว่าเธอไปอยู่ต่างบ้านต่างเมืองทำให้เธอรู้สึกเหงาและท้อ ถึงขนาดที่วันที่วอนเดอร์เกริลกลับมาเกาหลีแล้วมาเเถลงข่าว เธอพูดพร้อมน้ำตาว่าตอนที่อยู่อเมริกาเธอร้องไห้ทุกคืน และต่อมาก็ได้ข่าวการหยุดพักการเป็นสมาชิกของวอนเดอร์เกริล(ซอนมีอา อย่าร้องไห้ T^T) แต่ยังไงวอนเดอร์ฟูลทุกคนก็ยังคิดว่าเธอเป็นสมาชิกของวอนเดอร์เกริลอยู่...ตลอดไป
ยัยซอนมีสี่มิติ
ยัยกวางดาวผู้สดใสร่าเริง
เธอจะอยู่ในใจของวอนเดอร์ฟูลเสมอ....
และตลอดไป.....
ภาพยัยติ๋มตอนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ หน้าตาแจ่มใสดูมีน้ำมีนวลเชียว เห็นเธอมีความสุขเราก็มีความสุขนะ รีบๆกลับมาด้วยล่ะ
และปีเดียวกันนั้นวอนเดอร์เกริลก็ได้สมาชิกใหม่เข้ามาเสริมทัพแทนซอนมีคือ.....
นังหนูหน้าตาจิ้มลิ้มนางนี้ชื่อว่า วู เฮลิม เธอเป็นคนเกาหลีที่โตอยู่ที่ฮ่องกง ลิมมี่จึงพูดได้ถึงสี่ภาษา ภาษาจีนกลาง เกาหลี อังกฤษ และภาษาไรอีกนี่ละคนเขียนลืม= =" และวอนเดอร์เกริลก็ได้มีซิงเกิ้ลเปิดตัวสมาชิกใหม่ ซิงเกิ้ลนั้นคือเพลง....
เพลง 2 Different tears เกบ มี ทู ดิพเฟนเทียร์ ทู๊ ทู๊!!! ลุคนี้คนเขียนชอบมากกก มาแปลกแหวกแนว สักตรงแขนตรงขา (ความจริงมันคือแทททู) เอ็มวีเป็นแนวต่างดาวและท่าเต้นก็ยังคงคอนเซ็ปบ่งบอกถึงความเป็นวอนเดอร์เกริลได้อย่างดีเลยละค่ะ
ภาพซิงเกิ้ล 2 Different tears
และเมื่อปลายปี2011 วอนเดอร์เกริลก็ได้ฤกษ์กลับมาทวงบัลลังค์เกริลกรุ๊ปคืน ด้วยการปล่อยอัลบั้มเต็มชุดที่สอง มีเพลงไตเติ้ลชื่อว่า...
เพลง Be my baby พลีสส บี มาย เบ้ เบ พลีส มี มาย เบ้ เบ กลับมาด้วยลุคที่ดูอินเตอร์มากขึ้น เอ็มวีแอบขัดใจคนเขียนเล็กน้อยแต่เพลงเพราะ เรียกว่าเพราะทั้งอัลบั้มก็เลยให้ผ่านไป 555 ถือว่าการกลับมาครั้งนี้กระแสตอบรับดีพอสมควรค่ะ ทั้งจากนักวิจารณ์และจากแฟนคลับทั้งของตัวเองและของวงอื่นๆ(วอนเดอร์ฟูลคนนี้เป็นปลื้มมม ><)
ภาพปกอัลบั้มเต็มชุดที่สอง อัลบั้มนี้ตัวเองลงทุนสั่งซื้อจากเกาหลีเป็นอัลบั้มแรก เพราะรู้สึกว่ามันคุ้มมากๆค่ะ เพลงเพราะทุกเพลงและเป็นการกลับมาครั้งนานๆทีของวอนเดอร์เกริลอีกด้วย ไม่ซื้อเก็บไว้นี่ถือว่าพลาดอย่างแรง 555
ต่อมา ตามกันมาติดๆ ปี2012วอนเดอร์เกริลได้มีละครเป็นของตัวเองซึ่งฉายที่ช่องเคเบิ้ลของอเมริกา และได้ปล่อยซิงเกิ้ลภาษาอังกฤษซิงเกิ้ลแรกชื่อว่า.....
เพลง The dj is mine ฮี อิส มาย!!! คอสตูม...เกือบเป๊ะ ทรงผม เป๊ะ สำเนียง เป๊ะ เพลงเพราะเว่อร์ ท่าเต้นเริศสุดๆ (โดยเฉพาะยูบินยงเซ็กซี่มากกก><)
ภาพปกอัลบั้มซิงเกิ้ลภาษาอังกฤษซิงเกิ้ลแรก
และปล่อยซิงเกิ้ลภาษาเกาหลีใหม่อีกหนึ่งเพลงคือเพลง.....
เพลง Like this ไลค์ ดิส โย่ว ไลค์ ดิส!! เพลงใหม่เพลงนี้เปลี่ยนแนวจากเพลงก่อนหน้านี้มากเลยค่ะ ด้วยสไตล์เพลงฮิพฮอพ เสื้อผ้าก็ออกแนวสีสัน(ต่างจากบีมายเบบี้ที่เน้นขาวดำ) เอ็มวีก็เป็นแนวแฟลชม๊อป ท่าเต้นขาปูอีก แดนซ์กันมันส์เลยค่ะ เริศมากซิงเกิ้ลนี้ แถมเพลงอีกสี่เพลงในอัลบั้มก็เพราะทุกเพลง อย่างนี้จะไม่ให้เรียกว่าคุณภาพยังไงไหวค่ะ ถามจริง?(อวยโคตรๆ)
ภาพปกซิงเกิ้ล คนเขียนก็ไปสอยมาเรียบร้อย เมดอินโคเรียด้วยค่ะ อิอิ
จากความสำเร็จและความพยายามต่อสู้กับความยากลำบาทเมื่อครั้งที่อยู่อเมริกา วอนเดอร์เกริลก็พร้อมเปิดตัวซิงเกิ้ลที่จะบุกตลาดอเมริกาแถมยังได้นักร้องคุณภาพของอเมริกามาฟิทเจอร์ริ่งด้วยนั่นคือเพลง....
เพลง Like money เลิฟ มี ไลค์ มันนี่ เลิฟ มี ไลค์ คาร์ เลิฟ มี เบ เลิฟ มี เบ เว เอ เวอร์ ยูว อาร์ เพลงนี้เริศมากได้นักร้องดังระดับโลกอย่างAkonมาฟีทด้วย สำเนียงเป๊ะ ดูอินเตอร์มากขึ้น โดยเฉพาะชุดแนบเนื้อนี่สุดยอดเค่อะ เหอๆ ทำให้เห้นถึงความพัฒนาของสาวๆทั้งห้านี้จริงๆทั้งสำเนียงในการร้องการพูดภาษาอังกฤษ ประสบการณ์ต่างๆที่ทำให้ทั้งห้าสาวได้ดตขึ้น ภูมิใจกับเกริลกรุ๊ปตัวแม่กลุ่มนี้จริงๆ
ตอนนี้วอนเดอร์เกริลกำลังทุ่มเทให้การโปรโมทตัวเองในอเมริกาและได้เดินสายโปรโมทเพลงตามรายการวิทยุต่างๆ วอนเดอร์ฟูลคนนี้ก้ขอเป็นกำลังใจให้วอนเดอร์เกริลประสบผลสำเร็จอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ ส่วนแฟนคลับทุกคนยินดีกับทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่วอนเดอร์เกริลได้ตัดสินใจทำและไม่เคยทำให้วอนเดอร์ฟูลผิดหวังเสมอ ซารางแฮวอนเดอร์เกริลซือ ^^
ปิดท้ายๆ เพลงใหม่ของวอนเดอร์เกริลที่ร้องในมินิคอนเสริตไอฮาร์ทเรดิโอ คนเขียนชอบเพลงนี้มากกก ฟังเป้นร้อยๆรอบในแต่ละวัน 555 เป็นเพลงภาษาอังกฤษที่วอนเดอร์เกริลร้องแล้วทำให้รู้สึกว่า นี่ละการโกอินเตอร์ของแท้!!!
Wonder Girls You are the one..............
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น